วิวัฒนาการของมนุษย์

การวิวัฒนาการ คือ การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมและการพัฒนาของสิ่งมีชีวิตโดยการถ่ายทอดการเปลี่ยนแปลงให้สิ่งมีชีวิตรุ่นต่อไปเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และการป้องกันตัวต่อภัยอันตรายที่แตกต่างออกมาจากที่เป็นอยู่ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้ถือกำเนิดมาตั้งแต่หลายล้านปีก่อน โดย วิวัฒนาการของมนุษย์ ในยุคปัจจุบัน นักวิยาศาสตร์ได้ตั้งชื่อว่า “Homo sapiens” หรือในภาษาละตินที่แปลว่า ความฉลาด เราล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์แล้วทุกคนนั้นเคยคิดหรือสงสัยกันมั้ยว่าในปัจจุบันนั้นเราทุกคนกลายมาเป็นมนุษย์ได้อย่างไร และ วิวัฒนาการของมนุษย์ นั้นเป็นแบบไหนถ้าอยากรู้นั้นก็ไปดูกันเลย…

มนุษย์วานรยุคแรกเริ่ม

มนุษย์วานร

เมื่อราวๆ 4 ล้านปีก่อนได้กำเนิด มนุษย์วานรยุคแรกเริ่ม หรือ Australopithecus afarensis ที่วิวัฒนาการมาจากกลุ่มวานร เนื่องจาก 15/11/64  ในทวีปแอฟริกานั้นเมื่อก่อนเป็นป่าฝนเขตร้อนแต่สภาพแวดล้อมนั้นเปลี่ยนแปลงเป็นทุ่งหญ้าและป่าโปร่งจึงทำให้สิ่งมีชีวิตทำการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่อที่จะเอาตัวรอดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและการปรับตัวที่ทำให้ใช้ชีวืตอยู่ทั้งบนต้นไม้และพื้นราบเลยทำให้สามารถยืนตังตรงโดยใช้แขนแค่สองข้างจากการใช้แขนและขาเดินพร้อมกันเปลี่ยนแปลงไปเป็นยืนแค่2ขาตัวตรงได้ รวมถึงการใช้หินเป็นเครื่องมือรวมถึงมีขนาดสมองประมาณ 400-500 ลูกบากศ์เซนติเมตร ที่เป็นขนาดใหญ่กว่าวานรสายพันธ์ุอื่นๆ ในช่วงต้นของสายวิวัฒนาการ

 รวมถึงการใช้หินเป็นเครื่องมือรวมถึงมีขนาดสมองประมาณ 400-500 ลูกบากศ์เซนติเมตร ที่เป็นขนาดใหญ่กว่าวานรสายพันธ์ุอื่นๆ ในช่วงต้นของสายวิวัฒนาการ

โฮโม แฮบิลิส

โฮโม แฮบิลิส เป็นสายพันธ์ที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 2.35 ล้านปีก่อน ในช่วงต้นสายของวิวัฒนาการมนุษย์มีขนาดสมองที่ใหญ่กว่าเดิมจาก 400-500 ลูกบากศ์เซนติเมตร ขยับขึ้นมาเป็น 600-750 ลูกบากศ์เซนติเมตร และเป็นมนุษย์ดึกดำบรรพ์ยุคแรกที่สามารถคิดค้นและประดิษฐ์เครื่องมือและของใช้จากหิน โฮโม เออร์แกสเตอร์ เป็นสายพันธุ์ที่มีชีวิตอยู่บนโลกของเราเมื่อ 1.8 ล้านปีก่อน และสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่หน้าตาคล้ายคลึงกับมนุษย์ยุคปัจจุบันมากอีกด้วยและยังเป็นมนุษย์ดึกดำบรรพ์ยุคแรกที่สื่อสารกันได้ด้วยคำพูดและมีโพรงจมูก แขนที่สั้นกว่าขา 

โฮโม แอบิลิส

จึงทำให้ โฮโม เออร์แกสเตอร์ เป็นคู่แข็งกับ โฮโม แฮบิลิส หลังจากนั้น โฮโม แฮบิลิส เลยได้สูญพันธ์ไปโดย โฮโม เออร์แกสเตอร์ โดนเด่นในการสร้างอาวุธหรือเครื่องมือที่ซับซ้อนและทำได้ยากในสมัยนั้นนั่นเอง

โฮโม อีเรกตัส

Homoerectus

เป็นสายพันธ์ที่วิวัฒนาการมาโดยตรงจาก โฮโม แอบิลิส ในช่วง 3 แสนปีต่อมา สายพันธ์นี้นั้นถนัดด้านการใช้เท้าและการเคลื่อนไหวอย่างมากและมีลักษณะ ที่ตัวใหญ่สูงขึ้น และขนาดของสมองเพิ่มขึ้นมาเป็นขนาด 1100 ลูกบากศ์เซนติเมตร และยังเป็นสายพันธ์แรกที่รู้จักการทำหรือสร้างที่พีกอาศัยและรู้จักการจุดไฟหรือใช้ไฟ และสายพันธ์นี้นั้นยังเป็นสายพันธ์แรกที่อพยพหนีออกจากทวีปแอฟริกาเนื่องจากมนุษย์ปัจจุบันหรือเรานั้นได้ไปค้นพบกระดูกของมนุษย์ดึกดำบรรพ์สายพันธ์ โฮโม อีเรกตัส อยู่ทั้งพื้นที่ในทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย สายพันธ์ที่ได้ถูกค้นพบในประเทศจีนนั้นยังถูกขนานนามว่า มนุษย์ปักกิ่งอีกด้วย เช่นเดียวกันกับสายพันธ์ที่ประเทศอินโดนีเซียที่เรียกกันว่า มนุษย์ชวา สายพันธ์มนุษย์ที่วิวัฒนาการจนมาถึงยุคปัจจุบันเรียกว่า โฮโม นีแอนเดอร์ธาลเอนซิส อาศัยอยู่ที่ทวีปยุโรปและเอเชียเมื่อราวๆ 3 แสนปีก่อน และสมองก็มีการขยายใหญ่ขึ้นเป็น 1400 ลูกบากศ์เซนติเมตร อยู่รวมกันเป็นกลุ่มและทำสิ่งต่างๆเป็นกลุ่มเช่น การออกล่าสัตว์ รู้จักการใช้ประโยชน์จากไฟ รู้จักการมีสังคมและมีเสื้อผ้าใส่ปกปิดร่างกาย มีทั้งวัฒนธรรม และความสามารถในการสร้างสิ่งต่างๆ แต่ โฮโม นีแอนเดอร์ธาลเอนซิส หรือ มนุษย์นีแอนเดอร์ธาล สูญพันธุ์ไปเมื่อราวๆ 40,000 ปีก่อน

โฮโม เซเปียนส์

โฮโม เซเปียนส์หรือก็คือมนุษย์เราที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันและเป็นมนุษย์ที่เหลือสายพันธ์เดียวบนโลกอีกด้วย ปัจจุบันนี้มนุษย์เรานั้นมีทั้ง ภาษา วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ในการคิดค้นประดิษฐ์สิ่งของที่อำนวยความสะดวกสบายและให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น สายพันธ์นี้นั้นพัฒนาความคิดจากการล่าสัตว์หันมาทำเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมควบคู่ไปด้วยจากการอยู่รวมกันแบบเป็นกลุ่มๆขนาดๆเล็กๆก็พัฒนาไปเรื่อยถึงขนาดเป็นหมู่บ้าน เมือง และไปจนถึงประเทศ มนุษย์ในปัจจุบันปรากฏในพื้นที่ต่างๆของโลก ดังนี้

แอฟริกา = 160000 ปีก่อน

ยุโรป = 40000 ปีก่อน

เอเชียตะวันออก = 100000-60000 ปีก่อน

ออสเตรเลีย = 50000 ปีก่อน

อเมริกา = 15000 ปีก่อน

ถึงแม้ว่าหลายล้านปีก่อนหน้านี้สิ่มีชีวิตที่อยู่บนโลกจะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆของธรรมชาติตลอดมาเพื่อการเอาตัวรอดขณะที่การเปลี่ยนแปลงของมนุษย์นั้นส่งผลต่อธรรมชาติเอาเป็นอย่างมากทำให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งต่างๆในธรรมชาติทำให้การเอาชีวิตรอดท่ามกลางโลกเปลี่ยนแปลงอย่างเร็วจึงเป็นเรื่องยากและเสี่ยงต่อการทำให้เผ่าพันธ์นั้นสูญพันธ์

Write By : Discoveryman

Facebook Page : Discoveryman22