เครือข่าย 5G

ทุกวันนี้เชื่อว่าหลายๆ คนนั้นก็คงใช้โทรศัพท์ 4G กันอยู่แล้ว และในตอนนี้นั้นก็ได้มีการพัฒนาระบบเครื่อข่ายมาจนถึง 5G กันแล้ว ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ คนนั้นก็คงเคยได้ยินชื่อนี้มาแล้ว และในตอนนี้ในบางค่ายก็ได้มีการนำเอา เครือข่าย 5G มาเปิดให้เรานั้นได้ใช้งานกันแล้วอีกด้วย ซึ่ง 5G นั้นคืออะไร และจะมีประโยชน์ต่อชีวิประจำวันของคนเราอย่างไรกันบ้าง

ซึ่ง G ที่ทุกคนได้ยิน ได้เห็นกันมานั้นคือตัวที่ย่อมาจาก Generation ที่มีความหมายว่า ยุค, สมัย, รุ่น นั่นเอง และการสื่อสารแบบไร้สายของเราได้มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้เรานั้นสามารถทำอะไรได้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเริ่มจากในยุคของโทรศัพท์ที่เป็น 1G ที่หน้าของมือถือนั้นมีขนาดที่ใหญ่มากๆ ที่เป็นแบบอนาล็อกใช้กำลังไฟที่มาก และราคาที่แพงมากๆ อีกด้วย หน้าตาของโทรศัพท์ที่ 1G ที่มีหน้าตาเหมือนกับกระติกน้ำ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทำให้ผู้คนนั้นสามารถสื่อสารกันได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และก็ถัดมาในยุคของ 2G ที่ได้มีการลดขนาดของมือถือนั้นให้เล็กลงมีความกะทัดรัด มีหน้าจอที่สามารแสดงตัวหนังสือ อีกทั้งยังสามารถสื่อสารกันได้โดยการส่งข้อความ SMS และสามารถบันทึกข้อมูลในมือถือไว้ในรูปแบบที่เป็น SIM Card นั่นเอง

และในยุคของ 3G ที่มีการเพิ่มความเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นที่ทำให้ผู้คนนั้นสามารถที่จะออนไลน์อินเตอร์เน็ตบนมือถือได้ สามารถพูดคุยกันผ่านทางโทรศัพท์มือถือแบบเห็นหน้ากันได้ครั้งแรก ยุคของ 4G เป็นยุคที่มีการรับส่งข้อมูลผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์ที่มีความเร็ใของอินเตอร์ที่สูงกว่า และเสถียรกว่า 3G ซึ่งมันทำให้เรานั้นสามารถที่จะดูหนัง หรือ สามารถดูYouTube ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้นั่นเอง และในตอนนี้นั้น 4G ก็ได้มีการดินทางมาจนจะถึงปลายทาแล้ว ซึ่งโลกในยุคปัจจุบันที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ 4G เริ่มที่จะไม่ตอบโจทย์กับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เริ่มมการเข้ามาแล้วนั่นเอง จึงทำให้ 5G เริ่มที่จะเข้ามามีบทบาทแทนที่ 4G กันนั่นเอง ซึ่ง เครือข่าย 5G หรือ Generation ที่จะเข้ามานี้ไม่ได้แค่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเรา แต่จะเข้ามาเปลี่ยนสังคม และรูปแบบของการดำเนินธุรกิจไปอย่างมากมายเลยทีเดียว

5G คืออะไร? 5G คือระบบการสื่อสารแบบไร้สายที่จะมีการเข้ามาแทนที่ 4G ในยุคถัดไปนั่นเอง ที่ได้มีการพัฒนามาจากหลายประเทศเข้าด้วยกันโดยที่ 5G นั้นมีความสามารถในการรับส่งข้อมูลที่มีความเร็วกว่า 4G มากกว่า 20 เท่า ซึ่งอยู่ที่ 20 Gbps และในขณะเดียวกัน 4G นั้นมีการรับส่งข้อมูลอยู่ที่ 1 Gbps เพียงเท่านั้น และ 5G นั้นจะดีกว่า 4G ที่เราใช้ในปัจจุบันอย่างไรบ้าง เราได้ยกตัวอย่างมาให้ทุกท่านได้ติดตามกัน

การตอบสนองที่ไวขึ้น เครือข่าย 5G Cr: tanawat030.files.wordpress.com

1. มีการตอบสนองที่ไวยิ่งขึ้น

จากเดิมที่ 4G ที่มีการใช้เวลา 40 Millisecond ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่พริบตาเดียวอาจจะไม่ถึงกันเลยด้วยซ้ำในส่วนของการเปิดวิดีโอ 4k นั้น แต่ในส่วนของ 5G นี้ได้มีการลดลงมาเหลือเพียงแค่ 1 Millisecond เพียงเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาลดลงไปถึง 10เท่าเลยนั่นเองโดยที่เรานั้นไม่ต้องมารอให้วิดีโอนั้นโหลเลยนั่นเอง ซึ่งถือได้ว่ารวเร็วทันใจกันมากเลยทีเดียวกับ 5G

2. ส่งข้อมูลได้มากกว่าเดิม

จากที่ในปัจจุบันที่เรานั้นมีการใช้ 4 G กันอยู่นั้นสามารถรับส่งข้อมูลได้ที่ 7.2 EB/เดือน แต่ในส่วนของ 5 G ที่มีการเข้ามานั้นจะสามารถส่งข้อมูลได้ถึง 50 EB/เดือน ซึ่งทำได้มากกว่าขอเดิมถึง 7เท่าเลยนั่นเอง และ Exabyte ในที่นี้นั่นก็คือ หน่วยการวัดปริมาณของข้อมูล ซึ่งเรานั้นอาจจะเคยได้ยินมาบ้างในส่วน GB, TB กันมาบ้าง ซึ่งในส่วนของ 1 Exabyte นั้นเท่ากับ 100ล้าน GB นั่นเอง เพราะฉะนั้น 50 Exabyte ก็จะเท่ากับ 5,000ล้าน GB ที่มาพร้อมกับ 5G นั่นเอง

ความเร็วในการส่งข้อมูล Cr: os.mreport.co.th

3. ความเร็วในการส่งข้อมูล

ซึ่ง 5G ได้มีการเพิ่มเข้ามาให้ที่ 20เท่า หรือสูงสุดอยู่ที่ 20Gbps จากเดิมที่ 4G ใช้ได้เพียงแค่ 1Gbps เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นการเพิ่มความเร็วที่เร็วขึ้นมากๆ แบบก้าวกระโดเลยทีเดียว

คลื่นความถี่ เครือข่าย 5G Cr: checkraka.com

4. ยิ่งส่งข้อมูลมากความถี่ในการส่งยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

ที่จากเดิมนั้นที่เราใช้กันที่ 3GHz ในส่วนของ 4G พอมีการกระโดดมาเป็น 5G ก็จะได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 3.5 GHz จนสูงที่สุดอยู่ที่ 28GHz เลยนั่นเอง ซึ่งก็หมายความว่าเราจะมีความถี่ย่านใหม่ที่สามารถเลือกใช้นั้นได้มากขึ้นกว่าเดิมกันนั่นเอง ซึ่งทุกอย่างนั้นจะสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์ได้ทุกอย่างเลย ซึ่งสามารถใช้งานได้มากกว่า 4G เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

เชื่อต่ออุปกรณ์ได้มากยิ่งขึ้น Cr: zipimg.azureedge.net

5. เชื่อมต่ออุปกรณ์มากยิ่งขึ้น

จากเดิมที่ 4G เสาสันญญาณหนึ่งจะสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์รอบๆ ได้อยู่ประมาณ 100,000 ตัว พออัพเกรดมาเป็น 5G ก็สามารถที่จะเพิ่มอุปกรณ์เชื่อมต่อได้มากถึง 1,000,000 ล้านตัวเลยทีเดียว ซึ่งมากกว่าของเดิมที่เป็น 4G นั้นมากถึง 10 เท่าเลยทีเดียว

และในชีวิตจริงของคนเรานั้นจะได้ประโยชน์อะไรจาก 5G บ้างซึ่งสิ่งที่เรานั้นจะได้รับจาก 5G ก็คือการรับส่งข้อมูลในปริมาณที่มากมายมหาศาลแบบเต็มที่มากกว่าเดิมอีกทั้งยังมีความเร็วที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นให้อีกด้วย แล้วยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ นั้นได้มากกว่าเดิมนั่นเอง ดังนั้นพวกอะไรที่ต้องการใช้ในการSteam การดึงข้อมมูลมาจากCloud หรือจำพวกงานกราฟฟิกสูงๆ นั้น 5G สามารถที่จะรองรับกันได้อย่างสบายๆ เลยนั่นเอง และในส่วนของ IOT ที่ทุกอย่างนั้นสามารถคุยกันได้ที่ไม่ว่าจะเป็น Smart Home, Smart City, Mobility หรืออะไรอื่นๆ 5G ก็จะเข้ามาทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดได้นั่นเอง

Write By : Discoveryman

Facebook Page : Discoveryman22