บัวหิมะพืชในตระกูลทานตะวัน ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแทบเขาแอนเดส อเมริกาใต้ ที่ซึ่ง ประโยชน์ของบัวหิมะ บัวหิมะนี้นั้นในส่วนใหญ่แล้วชาวอินเดียแดงนั้นมักจะนำมาทำเป็นอาหารตั้งแต่ช้านานมาแล้วนั่นเอง ซึ่งต้นของบัวหิมะนั้นจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 2-3 เมตรด้วยกันนั่นเอง ซึ่งหัวของบัวหิมะนี้นั้นจะมีลักษณะที่มีความคล้ายกับมันเทศเป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่าบัวหิมะนี้นั้นจะมีความหนาแน่นของแป้งนั้นน้อยกว่ามันเทศ และมีปริมาณของน้ำที่มากกว่านั่นเองอีกทั้งยังมีรสชาติที่หวาน กรอบหอมที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วยนั่นเอง
ประโยชน์ของบัวหิมะ ทางโภชนาการ
หัวของบัวหิมะนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโน แร่ธาตุที่สำคัญแลธาตุรองอีกหลากหลายชนิดที่ไม่ว่าจะเป็น แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก และสังกะสี เป็นต้นนั้นเอง ซึ่งนอกจากคุณค่าทางโภชนาการเหล่านี้แล้วนั้น บัวหิมะนั้นมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยในการรักษาสุขภาพนั้นอย่างมากมายที่ไม่ว่าจะเป็น
1. ช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก
ซึ่งในหัวของบัวหิมะนี้นั้นอย่างที่รู้ๆ กันสำหรับหลายๆ คนนั้นอยูแล้วว่า บัวหิมะนี้นั้นมีรสชาติที่หวานซึ่งน้ำตาลที่ได้จากธรรมชาตินี้นั้นจะมีส่วนในการช่วยลดน้ำหนักได้นั่นเองซึ่งได้มีวาสารนั้นได้มีการเผยว่า ผู้หญิงที่รับประทานน้ำเชื่อมบัวหิมะนั้นติดต่อกันเป็นเวลา 120 วัน จากการทำการทดลองนั้นพบว่า น้ำหนัก ดัชนีมวลกายของเขานั้นลดลง นั้นเองเนื่องจากว่าน้ำเชื่อมบัวหิมะนั้นได้มีการเข้าไปสร้างความรู้สึกอิ่มภายในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ทำให้ผู้ที่รับประทานเข้าไปนั้นมีอาการที่อยากอาหารนั้นน้อยลงนั่นเอง
2. ช่วยลดระดับคอลเลสเตอรอล
ด้วยรสชาติของบัวหิมะที่มีความหวานเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้วนั้น ซึ่งภายในบังหิมะนั้นก็จะมีน้ำตาลชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ ที่มีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของการลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และคอสเลสเตอรอลในส่วนที่ไม่ดีนั้นนั่นเอง ซึ่งจากการศึกษานั้นได้มีการเผยว่าการรับประทายบัวหิมะเป็นประจำนั้นจะช่วยในเรื่องของการลดไขมัน ซึ่งมันได้สอดคล้องกับการลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดนั่นเอง
3. ช่วยลดระดับน้ำตาลภายในเลือด
ซึ่งถึงแม้ว่าบัวหิมะนั้นจะมีรสชาติที่หวานก็ตามแต่ แต่ภายในรสชาติที่หวานนี้นั้นก็ได้มาจากอินูลิน ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ได้มาจากธรรมชาติ ซึ่งจากการศึกานั้นได้พบว่าอินูลินนั้นเป็นสารที่ส่งผลดีต่อการทำงานของอินซูลินในร่างกาย ยิ่งโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ถ้าหากว่ารับประทานบัวหิมะในทุกๆ วันเป็นประจำจะสามารถช่วยในเรื่องของการควบคุมระดับน้ำตาลภายในร่างกายนั้นได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวนั่นเอง ซึ่งความหวานในบัวหิมะที่มีนี้นั้นมีค่าน้อยกว่าระดับของความหวานภายในน้ำตาลนั้นมากกว่าครึ่งหนึ่งเยทีเดียวนั่นเอง ซึ่งบัวหิมะนี้นั้นถือได้ว่าเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวานนี้นั้นสามารถรับประทานได้โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าระดับน้ำตาลภายในเลือดของเรานั้นจะเกินหรือไม่เลยนั่นเอง
4. บัวหิมะต้านมะเร็ง
บัวหิมะนั้นมีสรรพคุณที่ช่วยในการยับยั้งในการเจริญเติบโต อีกทั้งยังช่วยในการยับยั้งการแพร่กระจาย และการกลายพันธุ์ของเซลล์มะเร็งนี้นั้นได้ ที่อาจจะเกิดจากความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ใหย่ และโรคมะเร็งของเลือดที่ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งไขกระดูก มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งเม็ดเลือดขาวนั่นเอง ซึ่งภายในหัวของบัวหิมะนั้นประกอบไปด้วยเหล่าสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยในเรื่องของการปกป้องเซลล์ไม่ให้อนุมูลอิสระนั้นทำลายไปจนก่อให้เกิดการอักเสบต่างๆ ภายในร่างกายนั่นเอง ซึ่งเป็นผลที่ก่อนใหเกิดสาเหตุของการเป็นโรงมะเร็ง
5. ช่วยป้องกันภาวะที่ไขมันนั้นไปพอกตับ
ซึ่งในบัวหิมะนี้นั้นที่นอกจากจะช่วยในเรื่องของการลดระดับของคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในร่างกายของคนเราไดแล้วนั้นยังสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถลดปริมาณไขมันที่เข้าไปสะสมอยู่ภายในตับนั้นให้ลดลงได้อีกด้วย ซึ่งมันทำให้เกิดร่างกายของเรานั้นเกิดความเสี่ยงจากภาวะไขมันนั้นพอกตับลดลงไปอีกด้วยนั่นเอง
6. ช่วยลดอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี
ในบัวหิมะนั้นมีสารหนึ่งตัวที่มีชื่อว่า โพรไบโอติกส์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดที่ดีต่อร่างกาย ที่จะเป็นตัวช่วยในเรื่อของการดูดซับซึมสารอาหารต่างๆ นั้นได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังในบังหิมะนี้นั้นก็ยังมีเส้นใยของบัวหิมะที่จะเป็นตัวช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ที่จะเป็นตัวช่วยในการลดอาการท้องผูกสำหรับผู้ที่ขับถ่ายได้ไม่ดีนั้น การเลือกรับประทานบัวหิมะนี้นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวนั่นเอง
ซึ่งจากที่กล่าวมานี้นั้นก็จะเห็นได้ว่าบัวหิมะนี้นั้นเป็นอีกพืชหนึ่งชนิดที่มากไปด้วยคุณประโยชน์ที่มากมาย ซึ่งถ้าหากว่าผู้ใดนั้นที่สนใจ หรืออยากจะลองชิมรสชาติของเจ้าบัวหิมะนี้นั้นว่ามีรสชาติเป็นอย่างไรนั้นก็สามารถหามาลองชิมกันดูได้ แต่อาจจะต้องระวังกันสักหน่อยเพราะพืชชนิดนี้นั้นอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ซึ่งถ้าหากว่าท่านใดนั้นที่เคยประวัติในการแพ้พืชชนิดหัวมานั้นอาจจะเลี่ยงบัวหิมะไปก่อน
Write By : Discoveryman
Facebook Page : Discoveryman22