ถ้าโลกไม่มีชั้นบรรยากาศ

ถ้าโลกไม่มีชั้นบรรยากาศ จะเป็นยังไง? มีใครนั้นทราบกันหรือไม่ว่า ชั้นบรรยากาศโลก นั้นคืออะไร แล้วเรานั้นมองเห็น หรือสัมผัสชั้นบรรยากาศโลกได้หรือไม่ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าหลายคนนั้นก็คงจะรู้กันดีกว่าชั้นบรรยากาศโลกนั้นคืออะไร และก็ยังมีบางคนนั้นที่ไม่รู้เช่นกันว่าชั้นบรรยากาศโลกนั้นคืออะไร ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้นเมื่อเวลาที่เรานั้นมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เรานั้นก็จเห็นก้อนเมฆ ดาวอาทิตย์ หรือท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าสวยงาม เจอนก หรืออื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นที่เราเห็นนั้นมันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของชั้นบรรยากาศของโลกแต่เพียงเท่านั้น ซึ่งบรรยากาศนั้นก็คือ อากาศที่ห่อหุ้มโลกหรือบรรยากาศที่อยู่รอบตัวเราตั้งแต่พื้นโลกขึ้นไป แรงดึงดูดของโลกที่มีต่อบรรยากาศทำให้บรรยากาศมีการเคลื่อนตัวตามการหมุนของโลกไปพร้อมกับพื้นโลก บรรยากาศทำให้สิ่งมีชีวิตบนโลกมีชีวิตอยู่ได้ โดยเป็นแหล่งออกซิเจนสำหรับการหายใจของสิ่งมีชีวิต เป็นแหล่งคาร์บอนไดออกไซด์ให้พืชใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ช่วยป้องกันรังสี UV จากดวงอาทิตย์ไม่ให้มาถึงพื้นโลก และทำให้สะเก็ดดาวถูกเผาไหม้ก่อนที่จะตกลงสู่พื้นโลก และเป็นอันตรายแก่สิ่งมีชีวิต

ซึ่งประโยชน์ของ ชั้นบรรยากาศโลก นี้นั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละชั้นขอบรรยากาศ ซึ่งจะแบ่งออกได้ดังนี้

1.โทรโพสเฟียร์ (Troposphere)

ซึ่งชั้นบรรยากาศชั้นนี้นั้นคือชั้นที่อยู่ข้างล่างสุด ซึ่งห่างจากพื้นเพียงแค่ 10กิโลเมตรเพียงเท่านั้นเอง ซึ่งในชั้นโทรโพสเฟียร์ นี้นั้นเป็นชั้นบรรยากาศที่เหล่าสิ่งมีชีวิตนั้นอาศัยอยู่กันนั่นเอง ซึ่งในชั้นโทรโพสเฟียร์นี้นั้นจะมีลักษณะเด่นนั่นก็คือ อุณหภูมิที่มีการเปลี่ยนแปลงตามระดับของความสูงดดยอุณหภูมินั้นจะลดลงตามระดับความสูงที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง และนั่นจึงเป็นที่มาของคำว่ายิ่งสูง ยิ่งหนาวนั่นเอง อีกทั้งชั้นโทรโพสเฟียร์ นี้นั้นยังเป็นชั้นที่มีไอน้ำนั้นสะสมอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งทำให้สภาพอากาศนั้นแปรปรวน และมีเมฆมาก จึงเป็นเหตุให้เกิดพายุ และฝนตกบ่อยครั้งนั่นเอง

ชั้รแรก discoveryman

2.สตราโทสเฟียร์ (Stratosphere)

ซึ่งชั้นนี้นั้นเป็นชั้นถัดไปจากชั้นโทรโพสเฟียร์ ซึ่งมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 50 กิโลเมตรด้วยกันนั่นเอง ซึ่งในชั้นนี้นั้นจะเป็นชั้นที่มีอากาศอยู่ข่อนข้างเบาบาง ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะมีพายุ และฟ้าฝนนั่นเอง ซึ่งในชั้นนี้นั้นจะมีเพียงแค่ฝุ่นผง และยังมีโอโซนนั้นเป็นจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งโอโซนเหล่านี้นั้นจะช่วยในการดูดกลืนรังสี UVจากดวงอาทิตย์นั่นเอง เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ส่องมาถึงยังพื้นโลกของเรานั่นมาจนเกินไปนั่นเอง

ท้องฟ้าเเจ่ม discoveryman

3.มีโซสเฟียร์ (Mesosphere)

ชั้นบรรยากาศชั้นที่ 3 ที่จะอยู่สูงจากพื้นโลกนั้นที่ 85 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นชั้นที่เวลาที่อุกาบาตที่พุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกส่วนใหญ่นั้นจะถูกชั้นนี้นั้นทำลายไปเสียก่อนนั่นเอง และในขณะเดียวกันนั้นอุณหภูมินั้นก็จะลดลงไปตามความสูงด้วยนั่นเอง ซึ่งในชั้นมีโซสเฟียร์นี้นั้นจะมีความหนาวอยู่ที่ -90 องศา เลยทีเดียวนั่นเอง และในชั้นนี้นั้นยังมีอากาศที่เบาบางอีกด้วยนั่นเอง

4.เทอร์โมสเฟียร์ (Thermosphere)

ซึ่งในชั้นเทอร์โมสเฟียร์นี้นั้นจะมีความสูงอยู่ท่ 80-500 กิโลเมตรจากพื้นโลกขึ้นไปนั่นเอง ซึ่งอุณหภูมิในชั้นนี้นั้นจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเนื่องจากว่าชั้นเทอร์โมสเฟียร์นี้นั้นจะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่า 3ชั้นแรกก่อนหน้านี้นั่นเอง  และเนื่องด้วยว่าชั้นนี้นั้นอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่า 3 ชั้นแรก และจากนั้นอัตราการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิจะลดลง โดยอุณหภูมิในชั้นบนของเทอร์โมสเฟียร์ (Upper Thermosphere) จะอยู่ที่ 500-2,000 องศา อากาศในชั้นนี้มีแก๊สชนิดต่างๆ ที่เป็นประจุไฟฟ้าซึ่งสามารถสะท้อนคลื่นวิทยุบางชนิดที่มีประโยชน์ในการสื่อสาร และกรองรังสีต่างๆ ที่มาจากนอกโลกได้ เช่น รังสีเอกซ์ รังสี UV นอกจากนี้ดาวเทียมจำนวนมากยังโคจรรอบโลกอยู่ในชั้นนี้ด้วยนั่นเอง

ชั้น 4 discoveryman

5.เอกโซสเฟียร์ (Exosphere)

เป็นชั้นบรรยากาศชั้นสุดท้ายที่อยู่ห่างจากโลก 500 กิดลเมตรเลยนั่นเอง ซึ่งเป็นชั้นที่ไม่มีขอบเขตที่มีความชัดเจนเพราะในระหว่างบรรยากาศ และอวกาศนี้นั้นส่วนใหญ่นั้นจะเป็นแก๊สไฮโดรเจน และแก๊สฮีเลียมเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

และ ถ้าโลกไม่มีชั้นบรรยากาศ จะเป็นอย่งไร ? เนื่องจากว่าชั้นบรรยากาศนี้นั้นเป็นตัวช่วยในเรื่องการปรับอุณหภูมิของโลกใบนี้นั้นให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษย์ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากว่าโลกนี้ไม่มีชั้นบรรยากาศในตอนกลางวันที่เรานั้นสามารถมองเก็นดวงอาทิตย์ หรือมีแสงสว่างให้เห็นนั้นโลกจะกลับกลายเป็นตอนกลางคืนโดยทันที และถ้าไม่มีอากาศห่อหุ้มโลกแล้วนั้นในช่วงกลางวันอุณหภูมิบนผิวโลกจะสูงถึง ประมาณ 110 องศา และในช่วงกลางคืนอุณหภูมิบนผิวโลกจะลดต่ำลงจนถึงประมาณ -180 องศาเลยทีเดียวนั่นเอง ช่วยป้องกันอันตรายจากรังสีต่างๆ จากดวงอาทิตย์ เช่น รังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งจะถูกแก๊สโอโซนนั้นดูดซับเอาไว้แล้วนั่นเอง ถ้าหากมนุษย์นั้นถูกรังสีอัลตราไวโอเลตที่มีความเข้มมากเกินไป เซลล์ผิวหนังจะถูกทำลาย และอาจทำให้เป็นมะเร็งที่ผิวหนังได้นั่นเองเป็นต้น

Write By : Discoveryman

Facebook Page : Discoveryman22