[คดีดังรอบโลก] ชมรมแห่งการข่มขืน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

ชมรมแห่งการข่มขืน ” เดิมทีเป็นเพียงชมรมที่จัดปาร์ตี้เชื่อมสัมพันธ์ภายในมหาวิทยาลัย โดยมีนายวาดะ เป็นผู้ก่อตั้ง และให้ชื่อชมรมนี้ว่า “ซุปเปอร์ฟรี” ที่ถูกก่อตั้งในปี 1994 ที่มหาลัยวาเซดะ โตเกียว https://discoveryman.com/

ชมรมแห่งการข่มขืน

นายวาดะ ประธานชมรม

มหาวิทยาลัยวาเซดะ โตเกียว

เวลาผ่านไปนายวาดะกลายเป็นรุ่นพี่ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงชมรมนี้ให้มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น โดยการจัดปาร์ตี้แบบยิ่งใหญ่ และได้รับความนิยมจากเด็กมหาลัยสมัยนั้นมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักศึกษาสาวๆ เพราะภายในงานมีหนุ่มมหาลัยเหล่ท่อที่แห่แหนกันมาแบบมากหน้าหลายตา โดยงานนี้ นายวาดะ มีอำนาจการตัดสินใจและควบคุมงานทั้งหมด ซึ่งก็ถือว่านายวาดะทำได้ดี เพราะเป็นปาร์ตี้ที่ถือว่าสุดเหวี่ยงที่สุดในยุคสมัยนั้น (ให้อารมณ์เหมือนบิ๊กเมาเท่นบ้านเรา) 

ชมรมแห่งการข่มขืน

จากปาร์ตี้สังสรรค์ สู่ ชมรมแห่งการข่มขืน

เรื่องราวที่น่าสะพรึงเกิดขึ้นหลังจากนั้น หลังจากที่ทุกคนสนุกสังสรรค์กันจนเต็มอิ่ม จะมีการเลือกผู้หญิงที่ชอบให้ดื่มเหล้า คล้ายๆว่าเป็นธรรมเนียมของปาร์ตี้เลยก็ว่าได้ หากแต่ว่า เหล้าที่นำให้ผู้หญิงเหล่านั้นดื่ม เป็นเหล้าที่มีแฮลกอฮอล์มากถึง96%! ซึ่งถ้าหากใครมีร่างกายไม่แจ็งแรง ดื่มแล้วอาจจะเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย

เหล้า 96% แอลกอฮอล์

หลังจากที่ดื่มไป ผู้หญิงกลุ่มนั้นก็สลบไป แต่พอตื่นขึ้นมาอีกทีถึงรู้ว่าตัวเองโดนจับไปเวียนข่มขืนโดยผู้ชายมากกว่า 20 คนที่หมุนเวียนกันไปกระทำเรื่องเลวทรามพรรค์นั้น แต่ถึงจะโดนเรื่องราวที่หนักหนามาขนาดนั้น แต่ผู้หญิงทุกคนก็ไม่กล้าแม้แต่จะไปแจ่งความเพราะถูกถ่ายรูปแบลคเมล์เอาไว้ 

ชมรมแห่งการข่มขืน

2003 จุดจบ " ชมรมวิปริต "

ชมรมแห่งการข่มขืน
นายว่าดะ ประธาน ชมรมแห่งการข่มขืน

แรกเริ่มเดิมทีผู้เสียหายไม่มีใครกล้าไปแจ้งความเพราะกลัวอำนาจของชมรมนี้ ที่กระเป๋าหนักและยังมีลิ่วล้อ แบ่งเป็น5ภาคครอบคลุมไปทั่วประเทศ ยิ่งพอมีแรงสนับสนุนจากคนที่เข้าร่วมปาร์ตี้แล้่ว ยิ่งทำให้อำนาจที่กลุ่มนี้มี ยิ่งกว่าลัทธิงมงายเสียอีก

ในปี 2003 เริ่มมีนักศึกษา จาก 1 เป็น 2 เป็น 3 ไปจนถึงหลายๆคน ได้ลุกออกมาต่อต้านชมรมนี้ เมื่อมีคนออกมาแฉเบื้องหลังความเลวร้ายของชมรมนี้ ในขณะที่รีแอคชั่นของ หัวหน้าเลขาธิการคณะรับมนตรี ที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในตอนปี 2003 อย่าง ยาซูโอะ ฟูกูดะ และ นักการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยม เซอิชิ โอตะ กลับมีความคิดเห็นที่ น่ารังเกียจ โดยให้สัมภาษณ์ว่า  “ผู้หญิงกลุ่มนี้ทำตัวเองทั้งนั้น เพราะผู้ชายก็เหมือนเสืออยู่แล้ว”

ปัจจุบันชมรมนี้กลายเป็นกรณีศึกษา และผู้เชี่ยวชาญหลายท่านในปัจจุบันก็ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า สังคมคนญี่ปุ่นนั้นเป็นสังคมแบบคนไหลตามกัน โดยไม่มีใครกล้าทำอะไรฉีกออกไปคนเดียว ทำให้ชมรมอยู่ได้นานขนาดนั้น

ติดตามเราได้ที่ FB Page : Discoveryman22